แหล่งข้อมุล Bigbike บิ๊กไบค์ ใหม่ล่าสุด 2023

ปรับโฉม harley touring

    บิ๊กไบค์ (Bigbike) คือ ยานพานะที่หนุ่มๆหลายคนไฝ่ฝัน ด้วยรูปทรงและเสน่ห์ที่เย้ายวนใจของมันนั้นช่างยากที่จะละสายตา ปัจจุบันมีบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆมากมาย บริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ต่างเล็งเห็นผู้บริโภคกลุ่มนี้ว่ากำลังเติบโตและมีเงินหมุนเวียนมหาศาล ในอดีตเราจะเรียกรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 4 สูบขึ้นไปว่าเป็นบิ๊กไบค์เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่ารถทั่วไปอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบันนั้นเพื่อให้มีความสากลบิ๊กไบค์จะใช้เรียกสำหรับรถที่มีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250cc ขึ้นไป ส่วนรายละเอียดของแต่ละประเภทนั้นก็จะดูเรื่องส่วนประกอบและลักษณะจำเพาะของแต่ละรุ่น

บทความเกี่ยวกับบิ๊กไบค์

รถบิ๊กไบค์ (Bigbike) มีกี่ประเภท

บิ๊กไบค์

    ว่ากันว่ารถบิ๊กไบค์ฮาร์เลย์นั้นมีอยู่รุ่นหนึ่งที่ถือว่าเป็นราชาแห่งบิ๊กไบค์ก็ว่าได้นั่นคือ Road Blide Ultra ที่จะคอยเป็นผู้เบิกทางให้กับขบวนเดินทาง ซึ่งจัดอยู่ในประเภท ทัวร์ริ่ง ในปัจจุบันมีบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์มากมายที่คิดค้นรูปแบบของ บิ๊กไบค์ มามากมาย ที่เรารู้จักกันส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นทรงช๊อปเปอร์ (Chopper) และทรงรถแข่ง (Sport Racing) แต่รู้ไหมว่ายังยังมีบิ๊กไบค์ในลักษณะแยกย่อยออกไปอีกหลายรูปแบบ อาทิ สายออกทริป (Touring) สายวิบาก (Enduro) สายเอนกประสงค์ (Dual Purpose) ถ้าจะแบ่งแบบละเอียดตามแต่ละเอกลักษณ์ของแต่ละประเภทแล้ว สามารถแบ่งออกเป็นได้ถึง 10 ประเภท ดังนี้

yamaha yzr m1
  1. สปอร์ต หรือ เรซซิ่ง (Sport Bike & Racing Bike)
         เป็นประเภทที่เราทุกคนรู้จักกันดี เนื่องจากมีการแข่งขัน MotoGP ในรายการต่างประเทศที่โด่งดังและมีนักแข่งอย่าง ROSSI เจ้าของเบอร์ 46 ที่เป็นขวัญใจมหาชนตลอดกาล รถที่ใช้ลงแข่งและคุ้นตามากที่สุดคือ Yamaha YZR-M1 เนื่องจากเขาลงแข่งให้ทีมยามาฮ่าถึง 10 ฤดูกาล และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
         Valentino Rossi นักแข่งชาวอิตาลีที่โด่งดังเคย คว้าชัยชนะอันดับ 1 แชมป์โลก รายการ MotoGP ถึง 4 สมัย ในปี 2004,2005,2008,2009 ให้กับทีมยามาฮ่า และก่อนหน้านั้นอีก 2 สมัย ในปี 2002 และ 2003 ให้กับทีมฮอนด้า รวมทั้งหมด 6 สมัย ด้วยเอกลักษณ์และบุคลิกที่กวนโอ๊ยทำให้เขาเป็นที่รู้จักและเป็นไอดอลที่โด่งดังสุดๆ
         ลักษณะของรถ สปอร์ตไบค์ เป็นรถที่มีรูปทรงโฉบเฉี่ยวมีแรงต้านอากาศที่น้อย  เน้นที่ความเร็วในทางตรง เครื่องยนต์ที่มีอัตราเร่งสูง น้ำหนักเบา และต้องใช้การเอนตัวในการช่วยเลี้ยว
บิ๊กไบค์ harley

2. ครูซเซอร์ (Crusier Bike)
     เป็นบิ๊กไบค์อีกประเภทที่มีความนิยมสูงมากในหมู่วัยกลางคนที่เริ่มมีอายุและชอบความคลาสสิค มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ในความดุดัน มีกลิ่นอายความ Country เพื่อชีวิตนิดๆ  เหมาะสำหรับขับขี่เพื่อความสุนทรี เน้นโชว์ความงามของตัวรถ ท่อไอเสีย ส่วนประกอบทุกส่วนจะมีความเนี๊ยบอยู่ในตัว แฮนด์บาร์สไตล์ Drag ที่วางตำแหน่งให้ล้ำมาด้านหน้าเพิ่มความดุดันในการขับขี่
     Harley Davidson เปรียบเสมือนแบรนด์ไฮคลาสสำหรับรถประเภทนี้ ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบที่เป็นต้นตำรับแห่งความคลาสสิค และคุณภาพของอะไหล่แต่ละส่วนนั้นใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากอเมริกา ซึ่งนั่นก็ทำให้ราคาของตัวรถสูงตามไปด้วย แต่นั้นก็ยิ่งทำให้ความดุดันได้ผสมผสานกับความหรูหราไปอย่างลงตัว
    ลักษณะเด่นของครูซเซอร์ไบค์นั้น จะมีตัวถังที่หมดจดงดงาม รูปทรงดุดัน แฮนด์บาร์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษออกแบบให้สั้นและดูกระชับ ไฟหน้ากลมใหญ่ที่โดดเด่น โช๊คคู่หน้าเปลือยที่สร้างความดิบให้กับตัวรถ รายละเอียดของชิ้นส่วนทุกส่วนประกอบนั้นจะมีเอกลักษณ์และถูกทำขึ้นด้วยความประณีต

บิ๊กไบค์ chopper

3. ช็อปเปอร์ (Chopper Bike)
     จริงๆแล้วช็อปเปอร์นั้นก็เป็นบิ๊กไบค์ประเภทครูซเซอร์ที่แยกย่อยมา เป็นรถที่ถูกดัดแปลงให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากขึ้น เกิดขึ้นในช่วงปี 1950 ที่แคลิฟอร์เนียร์ จะเห็นว่าลักษณะโดยรวมนั้นจะคล้ายกับครูซเซอร์เว้นแต่ช่วงแฮนด์บาร์ที่จะมีลักษณะยื่นยาวโค้งออกมา ให้ดูยิ่งใหญ่อลังการ รวมถึงตัวรถที่จะมีลักษณะพองใหญ่ไม่หนักแน่นเหมือนครูซเซอร์ จะเน้นความใหญ่มากกว่าความหนักแน่น เป็นลักษณะการนำรถครูซเซอร์ไปแปลงหรือคัสตอมให้ดูแปลกตา
     ลักษณะที่เห็นได้ชัดของช็อปเปอร์คือ โช๊คอัพคู่หน้าที่เปลือยนั้นนะมีลักษณะที่ยาวกว่าปกติ ล้อหน้าจะยื่นยาวออกไปอย่างชัดเจน และแฮนด์บาร์ก็จะมีลักษณะยาวเป็นพิเศษและมีช่วงโค้งในช่วงปลาย ตัวถังส่วนใหญ่จะมีลักษณะบวมใหญ่ให้เข้ากับแฮนด์ที่ยาว ในช่วงหลังๆนั้นเริ่มมีความนิยมลดน้อยลงไปเนื่องจากความนิยมกลับไปที่ประเภทครูซเซอร์ซึ่งเป็นแบบคลาสสิคแทน

บิ๊กไบค์ ทัวร์ริ่ง

4. ทัวร์ริ่ง (Touring Bike)
       บิ๊กไบค์ประเภทนี้เหมาะสำหรับการออกทริปเป็นอย่างยิ่ง ออกแบบมาเพื่อการเดินทางไกลพร้อมกล่องเอนกประสงค์ติดท้ายรถเพื่อเก็บสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย มีเบาะนั่งที่แสนสบายและสามารถนั่งได้สองคน ช่วงล่างที่ออกแบบมาอย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและทนทาน
      รุ่นที่แอดมินเล็งไว้และเป็นรถในฝันก็คือ BMW K1600 GLT เป็นทัวร์ริ่งไบค์ที่ออกแบบมาได้งดวาม และมีเบาะนั่งคนซ้อนที่สบายสุดๆ รวมถึงกล่องอเนกประสงค์ที่ครบครัน เครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 1649 ซีซี 160 แรงม้า พร้อมจะนำรถที่มีน้ำหนักเกือบ 300 กิโลกรัมทะยานสูงโลกกว้าง และเข้าถึงธรรมชาติไปพร้อมๆกัน

5. เน็คเก็ต (Naked Bike)
       Naked ในภาษาอังกฤษนั้นแปลว่าเปลือย ลักษณะของบิ๊กไบค์เน็คเก็ตนั้นก็เปลือยให้เห็นโครงสร้างและตัวถังอย่างชัดเจน ในปัจจุบันรถบิ๊กไบค์เน็คเก็ตมีความนิยมสูงมาก เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่ารถบิ๊กไบค์ประเภทอื่นๆ ขนาดกะทัดรัด มีความคล่องตัวสูง แม้แรงม้าอาจสูงไม่เท่ารถรุ่นใหญ่ๆแต่อัตราเร่งไม่แพ้รถประเภทอื่นเลย เพราะตัวถังที่มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองเป็นอย่างมาก อีกทั้งรูปร่างลักษณะก็มีความดุดัน มีการเปลือยตัวถัง ออกแบบให้มีความเท่ในแบบสตรีท 

yamaha enduro

6. เอ็นดูโร่ (Enduro Bike)
    หากคุณหลงไหลในธรรมชาติชอบความผาดโผน สไตล์ลุยได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะลูกรัง ขึ้นเขา ลงห้วย ทางดินโคลน บิ๊กไบค์เอ็นดูโร่ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยยางที่หนาและดอกยางที่ไปได้ทุกสภาพผิว ตัวรถที่น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ที่พร้อมตะกุยทุกอุปสรรค โช๊คอัพที่สมรรถนะสูงมีช่วงยุบตัวที่กว้างทำให้รับแรงกระแทกที่รุนแรงได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่เหมาะที่จะนำมาวิ่งแอ็คในเมืองสักเท่าไรเพราะรูปลักษณ์อาจไม่ดุดันเหมือนประเภทอื่นๆ

Bigbike Motard

7. โมตาร์ด (Motard Bike)
    โมตาร์ดบิ๊กไบค์เป็นรถทางเรียบที่มีลักษณ์รูปทรงคล้ายกับรถวิบาก ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูปราดเปรียว ช่วงโช๊คอัพที่สูงกว่าปกติ แต่ยางจะมีความเรียบมากกว่าเหมาะสำหรับทางดินที่มีความขรุขระน้อย ทางที่มีลูกระนาดหรือสะพานเยอะๆรถประเภทนี้สามารถผ่านได้อย่างสบาย และด้วยรูปร่างและน้ำหนักของมันทำให้เป็นรถที่มีความคล่องตัวสูง เรียกได้ว่าเป็นรถวิบากทางเรียบก็ว่าได้

bigbike dual purpose

8. ดูออล เพอร์โพส (Dual purpose Bike)
    Dual Purpose Bike นั้นเป็นรถจักรยานยนต์อีกประเภทหนึ่งที่มีความผสมผสานระหว่าง Touring และ Enduro สามารถไปได้ทุกสภาพถนนและสามารถเดินทางไกลได้ เหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวระยะทางไกลและเส้นทางนั้นมีสภาพถนนที่สมบุกสมบัน เรายังเรียกรถบิ๊กไบค์ชนิดนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่ารถ Adventure หรือบิ๊กไบค์ผจญภัยนั่นเอง

motocross

9. โมโตครอส (Motocross Bike)
    โมโตครอสนั้นเป็นรถจักรยานยนต์วิบากเต็มรูปแบบ นั่นหมายถึงเป็นการนำรถบิ๊กไบค์แบบ Enduro มาโมดิฟายให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการถอดอุปกรณ์ส่วนควบพวกกระจกมองข้าง ไฟหน้า ขาตั้ง บังโคลน รวมถึงการเปลี่ยนโช๊คอัพให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการกระแทกที่รุนแรงจากการลงเนิน หรือกระโดดจากที่สูง
    คำว่า Motocross นั้นเป็นการผสมระหว่างว่า Motorcycle กับ Cross Country นั่นหมายถึงการขับขี่รถจักรยานยนต์ข้ามประเทศ เป็นกีฬาของประเทศฝรั่งเศส แต่มานิยมในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีเส้นทางที่เป็นดินลูกรังและมีอุปสรรคเป็นเนินระนาดมากมาย ปัจจุบันได้มีการแข่งขันโดยทำสนามแข่งโดยเฉพาะ และยังมีการแข่งขันแบบผาดโผนอีกด้วย

scooter bigbike

10. สกูตเตอร์ (Scooter Bike)
    เนื่องจากบิ๊กไบค์นั้นกำหนดไว้ค่อนข้างกว้างด้วยเครื่องยนต์เริ่มต้นที่ 250 cc ในกลุ่มของประเภทสกูตเตอร์นั้นก็อยู่ในกลุ่มที่สามารถจัดเป็นบิ๊กไบค์ได้เช่นกัน ลักษณะของรถประเภทนี้จะมีลักษณะเรียบหรู ดีไซน์สปอร์ต มีช่องเก็บของใต้เบาะ เน้นการใช้งานความเร็วไม่สูงและสามารถขับขี่ได้อย่างสบาย รุ่นที่มีความนิยมในขนาดเล็กราคาไม่แพงก็จะมี Honda Forza และ Yamaha X-MAX เครื่องยนต์ 300cc และรุ่นพี่อย่าง TMAX ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สูงถึง 500cc

      หลังจากที่เราได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ รถบิ๊กไบค์ กันไปพอสมควรแล้วว่าแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันอย่างไร และสภาพในการให้งานนั้นมีความเหมาะสมตามแต่ละรูปแบบอย่างไร ในการเดินทางไกลให้มีรสชาติและมีความปลอดภัยนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการรวมกลุ่มเพื่อขับขี่เป็นคณะเพื่อให้การเดินทางราบรื่น จึงต้องมีการรวมกลุ่มกันทำให้เกิดเป็นแก๊งบิ๊กไบค์ซึ่งก็มีอยู่ทั่วประเทศ เรามารู้จักกลุ่มแก๊งบิ๊กไบค์ที่มีชื่อเสียงและมีกิจกรรมสำหรับสมาชิกและผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับบิ๊กไบค์กันเลย